มะเฟือง (Star Fruit)

       Star Fruit คือผลไม้ทรงกระสวยที่เมื่อหั่นตามแนวขวางจะได้เป็นรูปดาวห้าแฉก หรือจะเรียกชื่อไทยง่าย ๆ ว่า “มะเฟือง” ก็ได้ ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีลักษณะทรงพุ่มที่มีทั้งตั้งตรงและกึ่งเลื้อย ลำต้น-มีสีน้ำตาลดำ เปลือกลำต้นไม่เรียบ ใบ-เป็นใบรวม ออกเรียงคู่เป็นแผง ใบย่อยเป็นรูปมนรีปลายแหลม ขอบใบเรียบ ใบย่อยที่ปลายก้านมักใหญ่ ดอก-ออกดอกเป็นช่อสั้น ๆ สีชมพูอ่อนไปจนเกือบแดง ผล-ผลดิบมีสีเขียว ผลสุกเป็นสีเหลือง มีทั้งรสชาติหวานและเปรี้ยวแล้วแต่ละสายพันธุ์ เมล็ด-มีสีดำยาวเรียว
       โดยในเมืองไทยอาจจะยังมีผู้รับประทานกันน้อย ซึ่งต่างกับในต่างประเทศที่ได้รับความนิยมมากกว่า ผมจึงอยากให้ ทุกคนได้เห็นความสำคัญของผลไม้ชนิดนี้กันมากขึ้น เพราะมะเฟืองมีคุณค่าทั้งทางอาหารและสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ ดังนี้
       คุณค่าทางอาหาร : โดยผลอ่อนมีรสเปรี้ยว ใช้ยำ เป็นเครื่องปรุงรส ใส่แกงคั่วเป็นผัก ส่วนผลสุก รับประทานเป็นผลไม้สด ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี 1 บี 2 ไนอะซีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เส้นใย แคลเซียม เหล ็ก และพลังงาน ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง ควบคุมการเต้นของหัวใจให้สม่ำเสมอ ควบคุมกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดแข็งตัวง่าย ระงับความฟุ้งซ่าน และทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
       คุณค่าทางยา : ใบและราก-ใช้ปรุงเป็นยาดับร้อน แก้ไข้ หรือใช้ใบต้มน้ำอาบแก้ ตุ่มคัน ผล-ใช้เป็นยาขับเสมหะ ขับปัสสาวะ แก่นและราก-ใช้ต้มรับประทานแก้ท้องร่วง แก้เจ็บเส้นเอ็น และน้ำมะเฟืองคั้น-แก้ร้อนใน ดับกระหาย ลดความร้อนภายในร่างกาย ถอนพิษไข้ บรรเทาอาการนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและโลหิตจางได้
       เราได้ทราบประโยชน์ของ มะเฟือง ที่มีมากมายทีเดียวเลยนะครับ และก็หวังอย่างยิ่งว่า พวกเราจะหันมารับประทานผลไม้ชนิดนี้กันเพิ่มมากขึ้น เพราะจะได้รับแต่ผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน