“หน้า ร้อนเป็นช่วงที่อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้ผืนดินร้อน น้ำในดินระเหยขึ้นเบื้องบน ขณะที่ ความร้อนจากบนฟ้าเคลื่อนที่ลงล่าง ทำให้ความกดอากาศต่ำ อากาศร้อนอบอ้าว มีฝนตก ทำให้อากาศมีทั้งความร้อนและความชื้นปะปนกัน ความร้อน ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมาก ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ถ้าอากาศร้อนจัด ๆ จะทำให้เป็นลม จากการเมาแดด เมาความร้อนกันมาก หัวใจเป็นธาตุไฟ ความร้อนจัดของฤดูร้อนทำให้ไฟธาตุของหัวใจมากยิ่งขึ้น ทำให้หงุดหงิดง่าย กระสับกระส่าย ใจสั่น นอนไม่หลับ และอาจมีอาการทางจิตประสาทได้” (จากหนังสือชีวิตสมดุลแบบแพทย์แผนจีน เขียนโดย หมอไพร) ไม่ เพียงเท่านั้น อากาศร้อนยังทำให้อาหาร เกิดการบูดเน่าเร็วขึ้น เชื้อโรคและแบคทีเรียมีโอกาสเจริญเติบโตและแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็วในช่วง นี้ ทำให้เป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพหลายอย่างตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคท้องร่วง ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือด บิด ร้อนใน อ่อนเพลีย เป็นต้น รสฝาดที่มีในพืชผักสมุนไพร มีสารสำคัญที่เรียกว่า “แทนนิน” มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ พบได้มากในเปลือกของต้นไม้หรือในแก่นของพืช มีฤทธิ์ช่วยฆ่า เชื้อโรค ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย จึงนำมาใช้แก้ท้องร่วง แก้บิด ช่วยฆ่าเชื้อโรค สมานแผล บำรุงธาตุ เคลือบกระเพาะอาหาร และแก้ร้อนในได้ดี แต่หากกินมากเกินไปจะให้ผลในทางตรงกันข้าม โดยแทนนินจะไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องผูกเป็นพรรดึก เกิดโรคลม และ ทำให้กระหายน้ำ • ทับทิม นำเปลือกมาต้มกับน้ำ ใช้ดื่มแก้อาการบิดที่มีอาการปวดเบ่ง มีมูกเลือด แต่หากอาการหนักและถ่ายบ่อยครั้งต้องรีบไปพบแพทย์ ส่วนผลทับทิมมีสรรพคุณต้านการอักเสบ หล่อลื่นลำไส้ แก้ท้องร่วง และดับพิษ • ข่อย นำเปลือกมาต้มดื่มแก้ท้องร่วงได้ดี • มะเดื่ออุทุมพร นำเปลือกมาต้ม แก้ท้องร่วง และชำระล้างแผลได้ • มังคุด • กล้วยน้ำว้า กล้วยดิบมีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้รักษาอาการท้องเดิน ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยใช้กล้วยดิบหั่นเป็นแว่นตากให้แห้ง นำไปบดเป็นผง ใช้รักษาอาการท้องเสียที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ รักษาแผล ในกระเพาะอาหาร กล้วยสุกมีสรรพคุณเป็นยาระบาย • องุ่น มีรสหวานอมเปรี้ยว ช่วยขับปัสสาวะ ระงับอาเจียน ดับกระหาย คลายหงุดหงิด แก้โรคกระเพาะอาหาร • ลูกบัว ใช้แก้ท้องร่วง บำรุงไต บำรุงหัวใจ ระงับประสาท แก้อาการนอนไม่หลับ • รากบัว ชาวจีนนิยมใช้รากบัวเป็นยาแก้ร้อนใน ดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีรสชาติอร่อย โดยนำรากบัวมาฝานเป็นแว่นใส่น้ำพอท่วม ต้มนาน 10-15 นาที ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว คนที่ชอบรสหวานอาจเติมน้ำตาลลงไปได้เล็กน้อย หากไม่มีเวลาต้ม ให้นำรากบัวสดมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ ดื่มครั้งละ 3-4 ช้อนแกง วันละ 3-4 ครั้ง ให้มีฤทธิ์แรงกว่าต้มรากบัว แต่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกได้ • ใบบัวบก มีรสขมซ่า กลิ่นหอม สรรพคุณแก้ร้อนใน ช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด นำมาทำน้ำใบบัวบกดื่มเย็น ๆ ชื่นใจดี อย่าง ไรก็ตาม ช่วงหน้าร้อนนี้ นอกจากพืชผักสมุนไพรที่มีรสฝาดแล้ว ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นำมาทำเป็นน้ำผลไม้ดื่มก็ช่วยคลายร้อนได้ดี เช่น น้ำมะนาว น้ำส้ม น้ำสับปะรด น้ำกระเจี๊ยบ น้ำระกำ น้ำมะยม นอก จากนี้ น้ำผักและน้ำผลไม้บางชนิดก็มีสรรพคุณแก้ร้อนใน แก้ไอ แก้เจ็บคอ ขับเสมหะได้ เช่น น้ำแตงกวา น้ำบัวหลวง น้ำมะพร้าว น้ำตาลสด น้ำเก๊กฮวย น้ำแตงโม น้ำแตงไทย น้ำมันแกว น้ำองุ่น น้ำแห้ว น้ำมะตูม น้ำทับทิม น้ำมะขาม น้ำมะเฟือง น้ำอ้อย เป็นต้น ซึ่งสามารถเลือกดื่มได้ตามความชอบ พืช ผักสมุนไพรใกล้ตัวเราล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น หากเราหมั่นหาความรู้เกี่ยวกับสรรพคุณของพืชผักชนิดต่าง ๆ นอกจากเราจะใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างและป้องกันร่างกายก่อนเจ็บป่วยได้ แล้ว เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมาก็สามารถนำพืชผักที่มีอยู่มาดูแลรักษาตนเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งหมอหรือร้านขายยาเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญพืชผักเหล่านี้ราคาถูกกว่ายาหรือไปหาหมอหลายเท่า อยู่ที่เราจะเลือกหยิบมาใช้ประโยชน์หรือไม่เท่านั้น เมนูเสริมสุขภาพช่วงหน้าร้อน
วิธีทำ 1. ปอกเปลือกรากบัวล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นหนาประมาณ 3/4 เซนติเมตร พักไว้ 2. ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด ใส่ลงไปในน้ำเดือดที่ต้มด้วยเครื่องยาจีนและเกลือ พอน้ำเดือดใส่รากบัวลงไป รอให้เดือดอีกครั้ง ลดไฟใช้ไฟอ่อน (น้ำซุปจะได้ใส) ตุ๋นไปเรื่อย ๆ จนทุกอย่างนุ่ม ปรุงรสให้พอดี ตักเสิร์ฟ
ชามะตูม
วิธีทำ
แกงส้มดอกแค
วิธีทำ
|